‘มิ้น-ซิลวี่’ รักหวาน ไม่ปิดบังความรัก!!!

ไม่ปิดบังความรัก มองข้ามคนว่าไม่เหมาะสม รักนี้พ่อไฟเขียว ‘มิ้น-ซิลวี่’ หวานออกสื่อ ห่าง 7 ปีไร้ปัญหา

เปิดตัวว่าเป็นแฟนกันมาได้สักพักใหญ่แล้วสำหรับคู่ของนักแสดงสาวสวย “มิ้น มิณฑิตา วัฒนกุล” และ “ซิลวี่ ภาวิดา มอริจจิ” บอกเลยว่าความหวานจัดเต็มตลอด ไม่ว่าจะวันสำคัญอะไร ก็มักจะมีเซอร์ไพรส์ให้กันและกัน

ซึ่งเผลอแปปเดียว “ซิลวี่ – มิ้น” ก็ครบรอบที่เป็นแฟนกันมา 2 ปีแล้ว งานนี้ “ซิลวี่” ก็เลยขอสาดโมเมนต์ความน่ารักน่าเอ็นดูของทั้งคู่ ที่ “ซิลวี่” อุ้ม “มิ้น” เดินไปตลอดทาง พร้อมแคปชั่นสั้นๆและหวานว่า “ไอ้ตัวเด๊กกก น่าดั๊ก ดั๊กนะ happy 2years w/ u ”

สำหรับเรื่องของความรักเป็นความรักดีๆ การสนับสนุนกันและกัน ช่วยเหลือกัน เขาเป็นสิ่งที่เราไม่มี มีความคิดในตัวเขาเหมือนกัน ต่างคนต่างช่วยกันและกัน แข่งกันแซ่บ สนับสนุนให้ทำสิ่งที่ชอบ

ส่วนเรื่องคอมเม้นต์ที่ไม่ดีเกี่ยวกับความรักเราก็ไม่คิดว่าเป็นปัญหา รู้สึกว่าถ้ายิ่งเข้าไปอ่าน เข้าไปใส่ใจ มันจะมีผลต่อใจ แล้วจะทำให้ทุกอย่างยิ่งแย่ เพราะฉะนั้นปัจจุบันมันดีอยู่แล้ว จะไปยุ่งอะไรกับใครคนอื่นที่เขาจะมาคอมเม้นท์บ้าอะไรเกี่ยวกับเรา มันก็คือสิ่งที่เราเลือก คนที่เราเลือกที่จะใช้ชีวิตอยู่ ถ้าเราทั้งคู่แฮปปี้ จบ

ล่าสุดทั้งคู่ได้ทำคลิป Q&A ซิลวี่มิ้น ตอบหมดเปลือก เรื่องที่คุณอยากรู้ ซึ่งเป็นคำถามที่แฟนๆ ถามมาในอินสตาแกรมเกี่ยวกับสถานะ ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ ทำเอาแฟนๆ ชื่นชมว่าทั้งคู่เป็นคู่รักที่มีทัศนคติการใช้ชีวิตที่ดีมากๆ โดยทั้งคู่เล่าเส้นทางความรักว่ามารู้จักกันได้ยังไง และนิยามตัวเองกันว่าอะไร

“มิ้น” ออกตัวเป็นคนจีบ “ซิลวี่” ก่อน ลั่นชีวิตมันง่ายเมื่อเจอสิ่งที่ใช่ ซิลวี่ : “จากนั้นก็ได้ไปกินข้าวกัน ตอนนั้นคือเรายังเด็ก ยังเละเทะอยู่ แล้วเขาดูเป็นผู้ใหญ่ ดูเป็นผ้าขาว เราไม่กล้าจะเข้าไป แต่เราก็ชอบเขานะ

รับอายุต่างทำให้มีปัญหาในการคบหากัน เพราะมองโลกกันคนละแบบ แต่ในความต่างก็พยายามหาจุดลงตัวจนเจอ ซิลวี่ : “บอกเลยว่ามี เยอะเลยค่ะ มันเป็นเรื่องที่ว่าในวัย30 ก็จะคิดอีกแบบนึง ในวัย20 ต้นๆ ก็จะคิดอีกแบบนึง ตอนแรกซิลยังติดเที่ยวอยู่เลย ยังไม่ได้คิดอยากจะมีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน พอมาเจอเบ๊บ(มิ้น) มันทำให้รู้สึกเปลี่ยนไป เราก็พยายามที่จะโตเพื่อที่จะรักษาเขาไว้ เราไม่ได้มีปัญหากันนะ แต่เรามองเห็นว่ามันมีความต่างกันอยู่

มิ้น : “มิ้นมองว่ามันอยู่ที่คนด้วย บางคนประสบความสำเร็จทางการเงิน แต่การเข้าสังคมเป็นศูนย์ มันมีสกิลในชีวิตหลายด้านที่ทำให้คนเราไม่เท่ากัน มิ้นรู้สึกว่าในบางมุมที่เรารู้สึกว่าเราแก่แต่เราก็ยังมีบางมุมที่เรายังเติมได้อยู่ ถ้าเราไม่เป็นน้ำเต็มแก้ว แล้วเราก็จะได้เติบโตจากคนที่เด็กกว่าเรา เพราะเขาเองก็คงจะเติบโตมากกว่าเราในบางจุดเช่นกัน”