เปิดชีวิต ‘กิ๊ก สุวัจนี’ แต่งเศรษฐีก่อนลูกทำเสียน้ำตา
เป็นตำนานนางร้าย ที่เวลาผ่านไปนานแค่ไหน แต่ชื่อของ “กิ๊ก สุวัจนี ไชยมุสิก” ก็ไม่เลือนหายไปจากวงการ ล่าสุด กิ๊ก ได้มาเปิดใจ
ผ่านรายการแฉ ถึง 15 ปีที่หายไปจากวงการบันเทิง โดยเจ้าตัวเผยว่า มุ่งมั่นกับการทำหน้าที่แม่ จนหันหลังให้วงการบันเทิง แต่เมื่อ
พูดถึงลูก สาวกิ๊กก็หลุดร้องไห้ด้วยความตื้นตัน “คนโต 17 คนกลาง 15 คนเล็ก 10 ขวบ จะกลับมาเล่นละครไหมก็ต้องดูความเหมาะสม
บุพเพฯ ลูกคนโตไล่ให้มาเล่น ลูกฉันมีความคิด ฉันรักลูกฉันมาก ฉันซึ้งมาก ลูกเอ่ยปากเองว่าแม่ต้องออกไปเจอเพื่อนบ้าง เขาโตแล้วนะ
ดูแลตัวเองได้ ออกไปทำสิ่งที่ฉันรัก พูดแล้วฉันอิน (ร้องไห้) อย่าพูดเรื่องลูกได้ไหมล่ะ ฉันอินเรื่องลูก ฉันเป็นคนพูดเรื่องลูกไม่ได้
มันจี้จุด ลูกมาพูดโดนใจ จะมาพูดทำไมเนี่ย (หัวเราะ) ลูกเหมือนรู้จิตใต้สำนึกฉันจริงๆ ว่าฉันชอบเล่นละคร ฉันโหยหาเรื่องนี้ แต่ฉัน
ต้องดูแลลูก พอแล้ว (จะร้องไห้อีก) พอจี้เรื่องลูกฉันก็ต้องเล่าจนจบไง แล้วฉันจะต้องร้องไห้ ฉันเลยไม่อยากจะพูดไง พอได้กลับมา
เล่นละครก็ดีนะ มันคือของเก่าฉันนะ คือสิ่งที่ฉันโหยหาจริงๆ แต่เป็นสิ่งที่ฉันต้องเก็บไว้ก่อน เพราะฉันมีสิ่งที่ต้องรับผิดชอบ แต่ถ้า
ถึงเวลาฉันพร้อมฉันลุยแน่ ผู้ใหญ่ทุกท่านก็ขอบพระคุณมาก ติดต่อมาตลอด รับสายแล้วแต่ยังมีกิจที่ยังรับไม่ได้ ก็ขออภัย ณ ที่นี้ด้วยนะคะ”
ด้านชีวิตส่วนตัว วิวาห์กับทายาทนักธุรกิจชื่อดังหุ้นส่วนกระจกไทยอาซาฮีและด่วนโทลล์เวย์ พิธีจัดขึ้นที่โรงแรมเชอราตัน แกรนด์ สุขุมวิท
โดยเน้นให้เรียบง่ายและรวบรัดเสร็จสิ้นภายในครึ่งวัน มีเพียงญาติสนิทของทั้งสองฝ่ายประมาณ 30 คน ปัจจุบัน กิ๊ก สุวัจนี มีครอบครัวสุดอบอุ่น
พร้อมกับสามี แจ็คกี้ ธรรมจักร พานิชชีวะ และลูกๆ ทั้งสาม น้องธัญย่า,น้องธาช่า และ น้องธอน ที่ผ่านมา กิ๊ก สุวัจนี เป็นดาวร้ายที่ฮอตมาก
โดยเคยเล่าว่า “ไม่ออกกล้อง 15 ปี คนยังจำได้ เมื่อก่อนละครมากสุดต่อวัน 5 เรื่อง ตอนทำงานไม่อยากกลับบ้าน ย้ายกองเหรอ ดีๆ ไม่รู้สึกเหนื่อย
ฉันไม่เที่ยวกลางคืน ฉันนอนในกองถ่ายด้วย ไม่ต้องอาบน้ำ บางทีไปอีกกองเลยนะคะ รถตู้สแตนบายเตรียมรับตัว ถ่ายไม่ทันค่ะ กับแฟน
ฉันไม่ชอบคนจุกจิก แฟนเขาเรียนอังกฤษ ค่าโทรศัพท์บาน หยอดบัตรอย่างเดียว เรานัดกันว่าเวลาเท่านี้เราจะคุยกัน เขาก็สม่ำเสมอนาน
เราก็คิดว่ามันอาจจะแมตซ์กันก็ได้ กว่าจะเจอเขาก็นานนะ ไม่ได้เจอตอนวัยรุ่น ต่างคนต่างทำงานกันหมดแล้ว เรามีโอกาสเจอเขาทาง
โทรศัพท์เท่านั้น ไม่ได้เจอหน้ากันนะคะ โทรคุยกัน เจอกันน้อยมาก แต่เวลาเขากลับมาเมืองไทย เขาก็ให้เวลากับเรา เวลาไปกองถ่ายเขาก็
ไปด้วย ไปรับไปส่งตามไปด้วยแฟนเด็กกว่า 5 ปี แต่เขาเป็นผู้ใหญ่กว่าฉันเยอะ อาจด้วยครอบครัวหล่อเลี้ยงมา เราหัวเราะเอิ๊กอ๊ากเหมือนบ้าๆ บอๆ เขาเป็นผู้ใหญ่กว่าเรา”