เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2566 ที่ผ่านมา ศูนย์วิทยุกู้ภัยสุรินทร์ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีเด็กกินลำไยติดหลอดลมหายใจไม่ออก อยู่หมู่ที่ 4 บ้านตะเคียน ต.สวาย อ.เมือง จ.สุรินทร์ จึงได้จัดอาสาสมัครกู้ภัยสุรินทร์พร้อมกับประสานไปยังศูนย์นเรนทร 1669 รีบรุดไปให้การช่วยเหลือ
ที่เกิดเหตุ พบเด็กชายมีอาการตัวซีด ปากเขียว หายใจติดขัด หมดสติอยู่ที่พื้น ทราบชื่อต่อมาชื่อน้องคิงตัน วัย 2 ขวบ 7 เดือน อาสากู้ภัยสุรินทร์ได้ทำการช่วยเหลือกระแทกด้านหลังน้องจนเมล็ดลำไยกระเด็นออกมา แต่น้องคิงตัน ไม่รู้สึกตัวพร้อมกันนี้ชีพจรเต้นอ่อนเจ้าหน้าที่กู้ภัยปฐมพยาบาลเบื้องต้น พร้อมกับเคลื่อนย้ายส่งจุดเปลี่ยนถ่ายให้กับรถโรงพยาบาลของศูนย์นเรนทร รีบนำส่งโรงพยาบาลสุรินทร์โดยด่วน และต่อมาน้องคิงตันได้มาเสียชีวิตที่โรงพยาบาล สอบถามญาติเผยว่าวางถุงใส่ลำไยทิ้งไว้ เห็นหลานหยิบลำไยทั้งเปลือกใส่ปากเคี้ยวกินจนเม็ดลำไยหลุดเข้าไปอุดหลอดลม รีบอุ้ม พร้อมแจ้งกู้ภัยเข้าช่วยเหลือ
ในเบื้องต้นแพทย์ลงความเห็นว่าน้องคิงตัน ขาดอากาศหายใจ ก่อนจะเสียชีวิต โดยแพทย์ระบุเด็กขาดอากาศหายใจเป็นเวลานาน ทำให้สมองตาย พร้อมเตือนผู้ปกครองต้องระวัง ไม่ควรปล่อยลูกหลานที่ยังเล็ก กินผลไม้ที่มีเม็ดใหญ่และลื่นเพียงลำพัง พร้อมกับมอบศพให้ญาติรับกลับไปบำเพ็ญกุศลต่อไป
ด้าน นพ.ชุมนุม วิทยานันท์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสุรินทร์ กล่าวว่า ต้องฝากเตือนไปยังผู้ปกครอง โดยเฉพาะครอบครัวที่มีเด็กเล็ก ไม่ควรปล่อยให้บุตรหลานทานผลไม้ที่มีเม็ดเพียงลำพัง ไม่ว่าจะเป็นผลไม้ชนิดใด ควรอยู่ในความดูแลของผู้ปกครองอย่างใกล้ชิด เพราะโอกาสที่เม็ดจะไปติดคอ ทำให้อุดตันทางเดินหายใจจนเป็นเหตุให้เสียชีวิตได้ง่าย
อย่างไรก็ตาม กรณีที่เด็กกลืนผลไม้ลงไปอุดตันหลอดลมจนเสียชีวิตจะไม่ค่อยเกิดขึ้นมาก แต่ก็ไม่ควรประมาท โดยเฉพาะในช่วงก่อนนอน ผู้ปกครองควรตรวจดูด้วยว่ามีอะไรติดค้างอยู่ในปากของบุตรหลานหรือไม่ ซึ่งหากมีก็จะต้องล้วงออกให้หมดก่อน นอกจากนั้นเนื่องจากช่วงนี้เป็นฤดูกาลผลไม้ที่มีรสหวานจัด เช่น ลำไย ดังนั้นอยากเตือนประชาชนที่มีโรคประจำตัว อาทิ โรคเบาหวาน ขอให้รับประทานแต่พอประมาณ ไม่มากเกินไป
ภาพจาก หน่วยกู้ภัยจังหวัดสุรินทร์ มูลนิธิจิบเต็กเซี่ยงตึ๊ง #เพจหลักสำนักงานใหญ่