วันที่ 14 ก.ค. 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากลงคะแนนโหวตนายกรัฐมนตรี เสร็จสิ้น เสียงคะแนนโหวตหนุนให้ พิธา เป็นนายก ยังไม่ถึง 376 เสียง เป็นเสียงที่ได้จาก ส.ว. มาแค่ 13 เสียง เห็นชอบ 324 ไม่เห็นชอบ 182 งดออกเสียง 199 ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์เป็นวงกว้างทั้งในโลกโซเชียลและตามบรรดาประชาชน ชาวบ้านที่นั่งจับเจ่าพูดคุยกัน เพราะมีเกินครึ่งที่ ไม่เห็นด้วย และเห็นใจกับการโหวตคะแนนเสียงครั้งแรกที่ผ่านไปช่วงเย็นวานนี้นั้น
ที่ตลาดภาษีซุงชัยนาท อ.เมืองชัยนาท แม่ค้าพ่อค้าต่างก็เอามาเป็นประเด็นในการสนทนา เช่นเดียวกันกับ นางสำนวล สีน้อย อายุ 56 ปี ด้อมส้มรุ่นใหญ่ ที่มาเดินจับจ่ายซื้อของภายในตลาด มาเห็นหน้า พิธา ที่แผงขายหนังสือพิมพ์ ถึงกับน้ำตาไหลรินมาเป็นสาย พูดแต่คำว่าเสียใจๆ ที่ พิธา ได้คะแนนโหวตไม่ถึงฝัน ไม่ได้เป็นนายกฯ ตามที่หลายๆคนคาดหวังไว้ แต่ยังต้องสู้กันต่อในยกที่ 2
นางสำนวล สีน้อย เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้นั่งดูข่าวไป น้ำตาไหลตลอด เห็นหน้า พิธา สงสารจับใจ จนลูกชายแซวว่า ถ้าแม่ร้องจนเป็นอะไรจะไป จะไปบีบคอพิธา เพราะแม่รักพิธามาก เสียใจมาก รักเสียยิ่งกว่าลูกตนเองเสียอีก อยากฝากไปบอกให้ พิธา สู้ๆ ขอให้ชนะศึก ในรอบ 2 ตนสวดมนต์ภาวนาให้ชนะภัยจากมารผจญทุกวัน ให้ได้เป็นนายกรัฐมนตรี พร้อมสั่งหัวหมูไว้ 2 หัว รอแก้บน หาก พิธา ได้เป็นนายกฯ อยากให้ประเทศเปลี่ยนไปในทิศทางที่ดี กว่านี้
ข่าวโดย เกวลี เกิดน้อย ทีมข่าวสยามนิวส์ จังหวัดชัยนาท