เมื่อวันที่ 2 ก.พ. 2568 ที่ผ่านมา ที่จ.บุรีรัมย์ มีรายงานว่า หลังจากนางแส โสมกุล อายุ 75 ปี ชาวบ้านบ้านปลัดปุ๊ก ต.วังเหนือ อ.บ้านด่าน จ.บุรีรัมย์ ไปตัดใบตอง พบทารกเพศชายแรกเกิด คาดว่าเพิ่งคลอดได้ไม่กี่ชั่วโมง นอนอยู่ใต้โคนต้นกล้วย สภาพถูกมดกัดเต็มตัว เจ้าหน้าที่นำตัวหนูน้อยไปปฐมพยาบาลที่โรงพยาบาลบ้านด่าน พบร่างกายสมบูรณ์ ชั่งน้ำหนักแรกเกิดได้ 2,840 กรัม
ต่อมา ตำรวจชุดสืบสวนเร่งติดตามพ่อแม่เด็ก คาดว่าอยู่ไม่ไกลจากจุดที่พบเด็กทารก กระทั่งทราบว่า เป็นเยาวชนอายุ 16 ปี และอายุ 17 ปี ยอมรับว่าเป็นพ่อแม่ของเด็ก สาเหตุที่นำไปทิ้งเพราะไม่กล้านำเรื่องไปบอกให้พ่อแม่ทราบ
นายเอ อายุ 17 ปี กล่าวว่า แอบคบหาเป็นแฟนและมีความสัมพันธ์กับ น.ส.บี อายุ 16 ปี มานานกว่า 1 ปี แต่ไม่ได้บอกให้ผู้ปกครองทั้ง 2 ฝ่ายรู้ พราะกลัวโดนตำหนิ คืนเกิดเหตุ น.ส.บี ได้มานอนที่บ้านตนเอง บอกว่าปวดท้อง ขอลุกไปเข้าห้องน้ำ สักพัก น.ส.บี ก็กลับมานอนตามปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น นายเอ กล่าวต่อว่า จนมาทราบข่าวว่ามีคนเอาเด็กทารกทิ้งที่ป่ากล้วย จากนั้นแฟนสาวได้เล่าให้ฟัง จึงนำเรื่องไปปรึกษาผู้ปกครองทั้ง 2 ฝ่าย แล้วพามาหาตำรวจที่ สภ.บ้านด่าน เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ
ด้าน น.ส.บี กล่าวว่า ตนอาศัยอยู่กับยาย คืนเกิดเหตุได้มานอนบ้านแฟน แล้วเกิดปวดท้องจึงเข้าห้องน้ำ ระหว่างทำธุระเสร็จ เด็กได้หลุดออกมาเอง ยอมรับว่าตนเองไม่รู้ว่าตั้งท้อง ด้วยความตกใจ จึงนำลูกไปวางไว้ที่โคนต้นกล้วยใกล้บ้านและเฝ้าดูตลอดเวลา เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าเยาวชนทั้ง 2 คนไม่มีที่ปรึกษาระหว่างการตั้งท้อง และไม่มีความรู้ความเข้าใจในการป้องกัน จึงปล่อยให้ท้องโตและหาทางออกไม่ได้ จึงตัดสินใจนำลูกมาทิ้งโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เจ้าหน้าที่จะทำการสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง
โดยจะให้นักจิตวิทยามาร่วมสอบสวนและเยียวยาสภาพจิตใจเด็กโดยเฉพาะผู้ปกครองเด็ก จะต้องทำความเข้าใจถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพื่อหาแนวทางการแก้ไขต่อไป ส่วนเยาวชนหญิงที่เป็นแม่เด็กพบมีอาการตกเลือด ต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด