วันที่ 2 เม.ย. 2568 มีรายงานว่า เว็บไซต์ ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ ประกาศ กรุงเทพมหานคร (กทม.) ออกระเบียบใหม่ ว่าด้วยการจัดสวัสดิการภายในกรุงเทพมหานคร พ.ศ.2568 เพื่อยกระดับและปรับปรุงสวัสดิการสำหรับข้าราชการและลูกจ้างให้เหมาะสมกับยุคสมัย สร้างความมั่นคงในชีวิตและการทำงาน
โดยมีผลบังคับใช้ถัดจากวันที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา คือ มีผลบังคับใช้ วันที่ 1 เมษายน 2568 เป็นต้นไป
ระเบียบใหม่นี้ กำหนดให้การจัดสวัสดิการเป็นหน้าที่ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งต้องดำเนินการตามกฎหมายและแนวทางที่กำหนด โดยเน้นให้ข้าราชการและบุคลากรได้รับประโยชน์จากสวัสดิการอย่างทั่วถึงและเป็นธรรม
ทั้งนี้ การจัดสวัสดิการต้องอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ คณะกรรมการสวัสดิการภายในกรุงเทพมหานคร ซึ่งประกอบด้วยปลัดกรุงเทพมหานคร เป็นประธาน และมีข้าราชการที่มีประสบการณ์ด้านการเงินและบัญชี เข้าร่วมเป็นกรรมการ
นอกจากนี้ คณะกรรมการฯ ยังมีอำนาจในการกำหนดนโยบาย วางแผน และออกระเบียบย่อยเพื่อกำกับดูแลแนวทางการจัดสวัสดิการ เช่น การจัดตั้งกองทุนสวัสดิการ ระบบการเงินและการบัญชี การดูแลร้านค้าสวัสดิการ ตลอดจนการอนุมัติรูปแบบสวัสดิการใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต สวัสดิการครอบคลุมหลายด้าน
ระเบียบฉบับใหม่นี้ ได้กำหนดประเภทของสวัสดิการที่สามารถจัดให้ข้าราชการและบุคลากรของ กทม. ได้อย่างครอบคลุม ซึ่งรวมถึง
- กองทุนสวัสดิการ เพื่อช่วยเหลือข้าราชการและบุคลากรในกรณีฉุกเฉิน
- การให้กู้เงิน สำหรับข้าราชการที่ต้องการกู้ยืมเงินในเงื่อนไขพิเศษ
- การก่อตั้งร้านค้าสวัสดิการ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับข้าราชการ
- การฝึกอบรมและพัฒนาอาชีพ เพื่อเพิ่มโอกาสและทักษะในการประกอบอาชีพเพิ่มเติม
- การให้เงินช่วยเหลือด้านการศึกษาและการเดินทาง สำหรับข้าราชการและบุคลากรที่มีความจำเป็น
- การสนับสนุนกิจกรรมเพื่อสุขภาพและสันทนาการ เช่น การออกกำลังกายและสวัสดิการด้านกีฬา
คณะกรรมการสวัสดิการฯ มีบทบาทสำคัญในการกำกับดูแลให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างโปร่งใสและเป็นธรรม โดยกรรมการจะต้องไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับผลประโยชน์ที่เกี่ยวข้องกับสวัสดิการ เพื่อป้องกันปัญหาการทุจริต หรือ การเอื้อประโยชน์
นอกจากนี้ คณะกรรมการยังมีอำนาจในการกำหนดเกณฑ์และเงื่อนไขในการใช้เงินจากกองทุนสวัสดิการ รวมถึงการแต่งตั้งบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญเข้ามาช่วยบริหารจัดการ ข้าราชการได้รับสวัสดิการที่เป็นธรรม
กรุงเทพมหานครตั้งเป้าให้ระเบียบฉบับใหม่นี้ ช่วยเสริมสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นให้กับข้าราชการและบุคลากร โดยเน้นการจัดสวัสดิการที่เป็นธรรม ทั่วถึง และสามารถช่วยเหลือผู้ที่ต้องการได้อย่างแท้จริง ซึ่งจะนำไปสู่ความมั่นคงในการทำงานและชีวิตของข้าราชการต่อไป
